ระบบการเชื่อมต่อที่เรารู้จักกันอย่างแพร่หลายอย่าง Bluetooth และ Wi-Fi ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อ และการรับส่งข้อมูลในลักษณะที่คล้ายคลึงกัน คือเพื่อการสร้างระบบ Network ด้วยการเชื่อมโยงอุปกรณ์สองสิ่งเข้าหากัน แต่การใช้งานของ Bluetooth กับ Wi-Fi นั้นมันมีความแตกต่างกันอย่างมาก แม้ว่าเทคโนโลยีของ Wi-Fi และ Bluetooth จะใช้คลื่นความถี่เดียวกันก็ตาม ซึ่งได้แก่คลื่นความถี่ที่ 2.4 GHz แต่ Bluetooth และ Wi-Fi จะไม่สามารถใช้งานร่วมกันได้
Bluetooth
คือ การเชื่อมต่ออุปกรณ์สองตัวเข้าด้วยกัน โดยอาศัยคลื่นความถี่ที่ 2.4 GHz ซึ่งมีระยะการทำงานที่ไม่ยาวมากนัก คือ จะได้ประมาณ 30 ฟุตเป็นอย่างมาก และต้องเป็นเฉพาะในที่โล่ง โดยมีจุดประสงค์เพื่อมาแทนที่สายไฟที่อาจจะยาว และระเกะระกะในการเชื่อมโยงอุปกรณ์ทั้งสองสิ่งเข้าหากัน เช่น ลำโพงเล็ก ๆ กับ โทรศัพท์มือถือ หรือ โทรศัพท์มือถือ กับ Small talk ที่ใช้ในรถยนต์ เป็นต้น
ข้อจำกัดของ Bluetooth ในการใช้งาน นอกจากเรื่องของระยะทางการเชื่อมต่อแล้ว ยังมีข้อจำกัดเรื่องความเร็วในการรับส่งข้อมูลอีกด้วย หากเอามาใช้งานการส่งข้อมูลเพียงเล็กน้อย เช่น เอามาใช้ Hotsync กับเครื่อง Smartphone หรือ Beam file เท่านี้ก็คงจะไม่เท่าไร แต่ถ้าหากจะเอา PC สองตัวมาทำระบบ Network โดยใช้ Bluetooth ก็จะเห็นถึงความอืดหรือความล่าช้าได้อย่างชัดเจน สรุปง่าย ๆ ก็คือ Bluetooth เหมาะสำหรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ Device เล็ก ๆ และต้องมีระยะทางเพียงสั้น ๆ หรือการสร้าง Network ในแบบที่เป็นพื้นที่ส่วนตัวมากกว่า ที่ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า PAN (Personal area network)
Wi-Fi
ได้แก่การสื่อสาร และการเชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยี 802.11 มีข้อดี คือ สามารถส่งข้อมูลแบบไร้สายได้รวดเร็ว จึงเหมาะที่จะนำมาสร้างเครือข่ายไร้สายเพื่อเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เข้าหากัน หรืออาจจะนำ Smartphone มาเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ก็ได้ เพราะในปัจจุบันเทคโนโลยีของ Smartphone รุ่นใหม่ ๆ สามารถรองรับ Wi-Fi ได้อยู่แล้ว ข้อดีอีกหลายประการของ เทคโนโลยี 802.11 ก็คือ การทำงาน และการเชื่อมต่อข้ำมูลสามารถสื่อสารได้ไกลกว่าการใช้ Bluetooth และเป็นที่นิยมมากกว่า โดยเฉพาะ เทคโนโลยี 802.11n ซึ่งมีความเร็ว 450 Mb/s ซึ่งกำลังได้รับความนิยมมากที่สุด แต่สำหรับในอนาคตก็คงจะมีการพัฒนาให้ส่งข้อมูลได้เร็วมากขึ้นไปอีก
จากข้อเปรียบเทียบข้างต้น อาจทำให้หลายคนมองว่าหมดยุคของ Bluetooth แล้วหรือ เพราะมี WiFi เข้ามาแทนที่ แต่ในความเป็นจริงแล้ว WiFi กับ Bluetooth ก็ไม่สามารถที่จะใช้แทนกันได้ เนื่องจาก WiFi จะต้องอาศัยพลังงานในการเชื่อมต่อ และรับส่งข้อมูลมากกว่า Bluetooth เนื่องจากในปัจจุบันนี้ก็ยังมีอุปกรณ์หลาย ๆ อย่างที่ยังจำเป็นต้องใช้ Bluetooth อยู่ เช่น ลำโพงบูลทูธ หูฟังบูลทูธ สมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อการประหยัดพลังงาน และไม่มีความจำเป็นต้องใช้ความเร็วในการรับส่งข้อมูล หรือระยะการเชื่อมต่อที่ไกลมากนัก
ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ Bluetooth และ Wifi ยังคงมีความจำเป็นที่ต่างกัน และยังถูกใช้งานควบคู่กัน แต่อาจจะอยู่คนละสถานะในเรื่องของการใช้งานของแต่ละอุปกรณ์ ซึ่งเชื่อว่าการพัฒนาเทคโนโลยีทั้งสองอย่างยังจะคงมีต่อไปในอนาคตอย่างแน่นอน…